Join our community of SUBSCRIBERS and be part of the conversation.

To subscribe, simply enter your email address on our website or click the subscribe button below. Don't worry, we respect your privacy and won't spam your inbox. Your information is safe with us.

32,111FollowersFollow
32,214FollowersFollow
11,243FollowersFollow

News

Company:

Sunday, June 15, 2025

วิธีมาออสด้วยตัวเองโดยใช้เงินน้อยที่สุด และใช้ภาษาอังกฤษแค่ IELTS 4.5 (ประสบการณ์จริง)

Share

วิธีมาออสด้วยตัวเองโดยใช้เงินน้อยที่สุด และใช้ภาษาอังกฤษแค่ IELTS 4.5 (ประสบการณ์จริง)

.

#ทีมออสเตรเลีย

.

โพสต์นี้ขออนุญาตแชร์ประสบการณ์ตรง สำหรับน้อง ๆ ที่อายุระหว่าง 18-30 ปี และต้องการมาอยู่ประเทศออสเตรเลียแบบถาวร แต่ไม่ได้มีต้นทุนทางการเงิน

.

การเตรียมตัวและวีซ่า

ณ ตอนโน่นเมื่อปี 2012 หรือ แม้กระทั่งปัจจุบัน มีวีซ่าตัวนึงที่ชื่อว่า Work and Holiday Visa (Subclass 462) ที่ให้คนที่อายุไม่เกิน 18 ถึง 30 ปี มีสิทธิ์ในการยื่นขอวีซ่าตัวนี้ เพราะสามารถมาทำงาน เรียน เที่ยว อะไรก็ได้ 1 ปีเติม โดยมีเงื่อนไขว่าถ้ามาทำงาน จะทำงานกับบริษัทใดๆ ได้ไม่เกิน 6 เดือนเท่านั้น นั่นหมายความว่า คุณจะมีเวลาเติมที่ไม่เกิน 3 เดือนหลังจากที่คุณมาถึงที่นี่ในการหางานที่เป็น Contract 3-6 เดือนให้ได้ และต้องเป็นบริษัทที่พร้อมที่จะ Sponsor คุณเป็น Working Visa (Subclass 186) ในอนาคตด้วย และหลังจากที่คุณได้ Working Visa มาครอบครองและนั่นคือด่านที่ยากที่สุดของชีวิต หลังจากนั้นสองถึงสี่ปีหลังจากนั้น คุณก็จะสามารถสมัคร Permanent Resident (PR) และต่อด้วย Citizenship ได้จนถึงที่สุด
.
Note : แนะนำให้ Google รายละเอียดของวีซ่าสองตัวนี้ให้เข้าใจอย่างละเอียดนะครับ ระหว่าง Subclass 186 และ 462 ไม่ขออธิบายในนี้ เพราะข้อมูลมีเยอะมาก
.

วิธีการเตรียมตัวก่อนสมัครวีซ่าและมาออสเตรเลีย (สำคัญมาก) ผมขอแบ่งออกเป็นสองประเภทนะครับ คือ

.

1) ด้านการทำงานและสายอาชีพ

แนะนำว่าให้ทำงานหาประสบการณ์ก่อนสมัคร Work and Holiday Visa อย่างน้อย 5-7 ปี ไม่จำเป็นว่าต้องทำงานสายไอที ทำงานและหาประสบการณ์สายไหนก็ได้ที่ทางประเทศออสเตรเลียเค้าต้องการคน (Skilled Occupation List) google คำนี้ก็จะเจอ List งานที่ทางออสเค้าต้องการนะครับ และถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้ทำงาน กับบริษัทต่างชาติ และดูว่าบริษัทนั้นๆ มีสาขาที่ประเทศออสเตรเลียหรือไม่ นี่เป็นอีกช่องทางในการหางานตอนมาออส เพราะคนที่นี่จะรู้จักบริษัทนั้นๆ เพราะมีที่ตั้งอยู่ออสจริงๆ อันนี้เป็นแต้มต่อของเรา ไม่ใช่ว่าเราทำงานอยู่บริษัทไทยตลาด 5-7 ปี ตอนเรามาอยู่นี่เราพูดชื่อบริษัทไปเค้าก็ไม่รู้จักนะครับ แต่ถ้าประสบการณ์ที่คุณมีมันแน่จริง ชื่อบริษัทมันก็แค่แต้มต่อนะครับ สุดท้ายเค้าก็สนใจที่ประสบการณ์ทำงานคุณอยู่ดี คนที่นี้จะรับคนโดยมองจากประสบการณ์ทำงานเป็นหลัก ๆ เลยนะครับ

จบอะไรมาเกรดเฉลี่ยเท่าไหร่ เค้าไม่สนใจเท่าไหร่ เพราะต่อให้คุณจบที่นี่เลยแต่ไม่มีประสบการณ์ทำงาน คุณจะหางานได้ยากมากเช่นกัน นั่นคือสาเหตุว่าทำใมผมแนะนำว่าให้ทำงานที่เมืองไทยเก็บประสบการณ์ก่อนออกเดินทางมาที่นี่ หลังจากที่คุณทำงานจนถึงอายุสักประมาณ 27-28 คุณก็ควรเริ่มต้นสมัคร Work and Holiday Visa ได้แล้วนะครับ เพราะคนแย่งกันเยอะมาก และไม่ใช่ว่าคุณจะทันคนอื่นเค้าในครั้งแรกที่สมัคร สมัยก่อนตอนผมสมัคร จำได้ว่าต้องให้เพื่อนๆ ประมาณ 5-10 คนรุมกันช่วยสมัคร แต่เดี๋ยวนี้คนน่าจะเขียนบอทสมัครกันแล้ว อาจจะยิ่งยากกว่าเดิมไปอีก อันนี้ผมไม่มีข้อมูลความยากของการกรอกใบสมัครของวีซ่าตัวนี้ ณ ปัจจุบัน ลองไปศึกษาเพิ่มเติมดูนะครับ ค่าสมัครวีซ่าตัวนี้ปัจจุบันอยู่ที่ราคา AUD485 ครับ ซึ่งถือว่าถูกมากๆ ถ้าเทียบกับวีซ่าทำงานตัวอื่น ๆ
.

2) ด้านภาษาอังกฤษ #วิธีฝึกภาษา

วิธีการฝึกภาษาอังกฤษที่ได้ผลที่สุดสำหรับคนที่ไม่เก่งเหมือนคนอื่น สมัยก่อนได้ลองมาหมดทุกอย่าง ไปเรียนโรงเรียนกวดวิชาดัง ๆ แพง ๆ สองสามหมื่นต่อคอร์ส มันก็ได้นะครับพวกแกรมม่าพื้นฐานอะไรพวกนี้ แต่สำหรับผมไม่ค่อยได้เท่าไหร่เพราะอ่อนภาษามากๆ (คือถ้าคุณอ่อนภาษามาก ๆ คุณไปอยู่ในกลุ่มที่คนส่วนมากได้พื้นฐานกันอยู่แล้ว สุดท้ายคุณไปเรียนก็ไม่เข้าใจอยู่ดี เพราะมันคือการเรียนเป็นกลุ่ม ถ้าคนส่วนใหญ่ได้ เค้าก็ผ่านเลย) และยิ่ง conversation เนี้ยไม่กระดิกเลย

วิธีที่ผมฝึกและได้ผลที่สุดสำหรับตัวเองเลยก็คือ การใช้ภาษากันคนจริง ๆ มีการตอบโต้จริง ๆ กับการฝึกฟังอย่างหนัก แต่ก่อนใช้ Skype ในการคุยกับเพื่อน Online ที่เป็นคนจีน คุยถูกผิดสำเนียงมั่ว ๆ อะไรก็ว่าไป จัดไปก่อนเพราะมันฟรี อย่างน้อยทำให้เราได้ใช้ภาษาแน่ๆ ทุกวัน จนเกิดความเคยชิน แล้วก็ประกอบกับการ ดูหนังซีรีสครับ แต่คนส่วนมากดูหนังเพื่อฝึกภาษาผิดวิธีนะครับ ดูแล้วติด ดูแล้วเน้นสนุก วิธีผมคือหาหนังที่เราชอบมากๆ ดูหลายๆรอบไม่เบื่อ เปิดวน ep เดียว เปิดวนไป ไม่เปลี่ยน ep จนกว่าจะจำได้ว่าประโยคต่อไปที่ตัวละครจะพูดอะคืออะไร เปิด subtitle ในช่วงแรก ๆ และปิดเมื่อจำได้

จำได้ว่าแต่ก่อนฟังตลอดเวลา เปิดทิ้งเปิดขว้างวนอยู่ ep เดียวพอจำได้หมดก็ไปเปิด ep ถัดไปวนอีก และอันนี้ได้ผลมากๆ ฟังเข้าใจเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าในระยะเวลาอันสั้น หนังที่ผมดูวนมีอยู่สองเรื่องคือ pack to the rafters อันนี้หัดฟังสำเนียงออสซี่ และ Big Bank Theory อันนี้ดูเพราะชอบส่วนตัว แล้วก็แนะนำว่าให้ไปสอบ IELTS เพื่อเป็นเกฑณ์การวัดความรู้ที่เราเรียนมาบ้างสักปีละครั้ง ถ้าคุณเก่งๆ และตั้งใจจริง ผมเชื่อว่าคุณน่าจะได้อย่างน้อย score 6-7 แต่ตอนนั้นผมทำได้เติมที่แค่ overall 5.5 นะครับ หลังจากสอบไปสี่รอบ และนั่นคือข้อดีของวีซ่าตัวนี้เพราะต้องการ IELTS แค่ 4.5 ในแต่ละทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน นะครับ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็พยายามให้สอบได้ 7 กันนะครับ เพราะนั่นคือแต้มต่ออย่างมากสำหรับการมาทำงานที่นี่สำหรับวีซ่าตัวอื่น ซึ่งผมไม่ได้อธิบายในนี้นะครับ
.

สิ่งที่ต้องทำหลังจากมาอยู่ที่นี่แล้ว

มาถึงตอนนี้คุณควรจะต้องมีประสบการณ์ทำงานและใช้ภาษาได้ระดับนึงแล้ว ต่อมาน่าจะเป็นเรื่องค่าครองชีพ ตอนที่ผมมามีเงินติดตัวประมาณหกหมื่นบาทหลังหักค่าที่พัก สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ โดยเฉพาะถ้าคุณเงินน้อย คุณจำเป็นจะต้องไปหางานทำตามร้านอาหาร แนะนำให้ทำช่วง 4PM-10PM ทุกวันเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้เรามีเงินมาเลี้ยงตัวเองตอนกำลังหางานประจำทำ และเราก็จะมีเวลาตอนกลางวันสำหรับไปสัมภาษณ์งานสาขาที่เรามีประสบการณ์ เว็บที่ผมสมัครและมีการเรียกไปสัมภาณ์ซะส่วนใหญ่จะได้มากจาก Seek.com.au ซึ่งแทบจะเป็นเว็บหางานหลักของคนที่นี่เลยก็ว่าได้

แนะนำให้เขียน CV และ Cover letter ดี ๆ เนียน ๆ ของพวกนี้เราสามารถเตรียมได้ก่อนมาอยู่แล้วนะครับ ซึ่ง ณ ตอนนั้นผมจำได้ว่าหลังกลับมาจากทำงานร้านอาหาร ก็ส่งใบสมัครทุกวันๆละหลายๆที่ แล้วเค้าก็จะโทรมานัดเราไปสัมภาษณ์งาน ซึ่งเป็นตอนกลางวันอยู่แล้ว และให้เลือกสมัครงานที่เป็น Contract 3 หรือ 6 เดือนนะครับ ถ้าได้ 6 เดือนคือดีมาก อาจจะลองสมัคร Full-time ดูด้วยก็ได้แต่โอกาสที่เค้าจะเรียกสัมภาณ์น้อยครับ เพราะ Full-time ส่วนมากเค้าเน้นคนที่มี Working Visa หรือ เป็นคนที่นี่อยู่แล้ว ทีนี้สิ่งที่ยากที่สุดคือคุณต้องหานายจ้างที่ยินยอมที่จะให้ Working Visa คุณได้ (แนะนำให้หาบริษัทใหญ่นิดนึง) แต่สุดท้ายแล้วผมเชื่อว่าบริษัทส่วนใหญ่เค้ามีกำลังมากพอที่จะให้ Working Visa คุณอยู่แล้วถ้าคุณสามารถทำให้เค้าเห็นว่า คุณมีประโยชน์กับบริษัท และทำงานได้จริงในช่วงที่ทำงานเป็น Contract ให้กับเค้า ในส่วนนี้ผมมีท่าไม้ตายครับ

ส่วนมากที่บริษัทไม่ยอมให้ Working Visa ก็เพราะว่าเค้าไม่อยากจ่ายค่าสมัครและค่าจ้างทนายให้เรา ในส่วนนี้เราบอกไปเลยว่าเราจะจ่ายค่าทนายและค่าวีซ่าเองทั้งหมด และให้เค้าเซ็นต์รับรองให้อย่างเดียวพอ แบบนี้เค้าไม่มีอะไรเสียนะครับ ส่วนมากเค้าจะยอมให้ในที่สุด และยิ่งถ้าเราทำงานให้เค้าได้จริง ก็แทบไม่มีเหตุผลอะไรที่เค้าจะไม่รับรองนะครับ อีกอย่างขั้นตอนการยื่น Working Visa ควรอย่างมากที่จะจ้างทนายนะครับ ต่อให้ในใจเรารู้ก็ตามว่ายื่นเองได้ ถูกกว่ามาก เพราะค่าจ้างทนายอย่างต่ำๆ ก็ห้าพันถึงหมื่นเหรียญ ไม่รวมค่าสมัครวีซ่า แต่ที่ผมแนะนำว่าให้ยอมจ่ายจ้างทนายเพราะว่าวีซ่าที่คุณมีอยู่ Work and Holiday มันให้เราอยู่ได้แค่ปีเดียวนะครับ เราจะไปเสียเวลากับการเตรียมเอกสารผิดไม่ได้ ช้าเพียงนิดเดียวคุณอาจพลาดไปทั้งหมด ให้คนที่เป็นมือาชีพเค้าจัดการดีกว่าครับ หลังจากคุณได้ Working Visa แล้วที่เหลือคือขนมแล้วครับ แสดงความยินดีด้วย แสดงว่าคุณได้ผ่านช่วงเวลาที่ยากที่สุดมาแล้ว ต่อจากนี้จนไปถึงเป็นคนสัญชาติออส แค่รอเวลา ไม่ได้มีอะไรยากแล้ว
.

ปล. ช่วงรอยผ่านต่อระหว่างที่บริษัทให้ Working Visa อันนี้เราต้องกลับไทยไปก่อนนะครับ แล้วกลับมาใหม่ตอนที่ได้ Working Visa แล้ว เพราะวีซ่าก่อนหน้าที่ Work and Holiday Visa เค้ามีข้อกำหนดห้ามต่อวีซ่าตัวอื่นต่อที่นี่ จำเป็นต้องกลับไทยไปก่อนแล้วกลับมาใหม่ ตกลงกับนายจ้างดีๆ ก็เหมือนเรากลับไป Holiday สักอาทิตย์แล้วกลับมาทำงานใหม่
.

สำหรับคนที่อายุเกิน 30 และมีประสบการณ์ทำงานนะครับ วีซ่าทำงานสองตัวข้างล่างคือวีซ่าที่คนใช้เยอะคือ Subclass 887 (IELTS 4.5) และ Subclass 189 (IELTS 6) เอาเข้าจริงคนส่วนมากจำเป็นที่จะต้องสอบ IELTS ให้ได้อย่างน้อย 7-8 ของแต่ละทักษะเพื่อให้ได้แต้มตามที่เค้ากำหนด วีซ่าสองตัวนี้ไม่จำเป็นต้องให้ใคร Sponsor เรานะครับ สมัครตรง ๆ ได้เองเลยจากที่ไทยครับ รบกวนศึกษาเพิ่มเติมวีซ่าทั้งสองตัวนี้นะครับ เพราะผมไม่มีประสบการณ์โดยตรง และรายละเอียดน่าจะเปลี่ยนไปเยอะแล้วปัจจุบัน
.

สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคนที่มีต้นทุนน้อย ต้องการมาทำงานและย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย หลังว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาจะช่วยน้อง ๆ ได้ไม่มากก็น้อย สู้ ๆครับ

.

เนื้อหาจากกลุ่มเฟซบุ๊ค โยกย้ายมาส่วนสะโพกโยกย้าย

Gawao
Gawaohttp://konderntang.com
มีความชอบและหลงไหลในเทคโนโลยีทางด้านไอที การลงทุน และเงินคริปโต .. นอกจากนี้แล้วมักใช้เวลาว่างไปกับการท่องเที่ยว ถ่ายรูป ไปค่ายอาสา ..

Read more

Local News