สวัสดีค่า เราเพิ่งเข้ามาไม่กี่วัน เราเลยอยากเล่าประสบการณ์ การทำงาน Retail และชีวิตที่ออสเตรเลีย ตลอดระยะเวลา 1 ปี (ทำงาน 6 เดือน อีก 6 เดือนไม่ได้ทำงาน กิน เที่ยวเล่นไปทุกที่) เราไปแบบวัดดวงล้วนๆ และไปถูกกฏหมายค่ะ
.
#ทีมออสเตรเลีย
.
เหตุเกิดจากที่เราเบื่อการทำงานที่นี่ค่ะ เราจึงหาข้อมูล Working and Holiday ที่ Aus (ตอนนี้รับปีละ 2,000คนค่ะ ปีเรารับ 500 คน)
#เรื่องภาษา
ภาษาเราก็อยู่ในขั้น งง กับทุกแกรมม่า มั่วซั่วไปหมด ท้ง เท้น อะไร จำไม่ได้ค่ะ google translate คือเพื่อนรัก ก่อนสอบ ielts ไม่ได้ไปเรียน เราก็ไปสอบทั้ง ๆ ที่หัวมีแค่นั้นอะค่ะ แต่ดันบังเอิญสอบผ่านค่ะ
การฝึกของเราก็ ฟังเพลง ดูหนัง พูดกับตัวเองไปเรื่อย และบังเอิญช่วงนั้นเราก็บ้า Ice Hockey ค่ะ เราเลยได้ดูการแข่งขันเยอะ มันมีแต่ภาษาอังกฤษ ไม่มีซัพ เลยต้องพยายามฟังให้เข้าใจว่า เค้าพูดอะไร
เพื่อน ๆ ที่ออส ก็เข้าใจในสิ่งเราพูดนะคะ อาจจะมีงงบ้างบางครั้ง แต่เราก็พยายามอธิบายจนเค้าใจ
อยู่ไปเดือนนึง ก็อยู่ตัวแล้ว พูดได้เยอะ คล่อง เข้าใจศัพท์แสลงที่มากมายของออส แต่ยังไม่เก็ทมุขฝรั่งอยู่ดี 555 ใครไม่ได้ภาษา ช่วงนี้ WFH เราแนะนำเลย ฝึกไปเยอะๆค่ะ เราฝึกได้ คุณก็ฝึกได้ มันไม่ได้ยากอย่างที่คิดค่ะ
#เรื่องการทำงาน
เราอยู่ Uniqlo ประเทศไทยมาก่อน และหลังจากเราได้วีซ่า เราก็ลาออก ไปสมัคร Uniqlo Australia (ไม่ได้ขอย้ายแต่อย่างใดค่ะ) ไปทำทั้งหมด 6 เดือนค่ะ ในตำแหน่ง Full time SA (พนักงานขาย)
- ทำงาน 5 วัน หยุด 2 วัน ตารางงานคือ Fix ไว้แล้วค่ะ ทำงานที่นี่ชิลมากค่ะ สำหรับเรา และไม่ค่อยมีโอที ทำงานวนไปค่ะ พยายามทำให้เสร็จค่ะ หมดเวลา ยังไม่เสร็จก็วางมือ กลับบ้านจ้า
- เรทเงินเดือน แต่ละตำแหน่งคือ คนละเรท แต่เค้ามีเรทพิเศษสำหรับทำงานวันเสาร์ อาทิตย์ วันหยุด หรือแม้แต่ทำงานกะบ่ายที่เลิกค่ำ ๆ
- Tax ที่ต้องจ่ายก็ราว ๆ 30% ค่ะ บ้างก็ได้คืน บ้างก็จ่ายเพิ่มค่ะ
- สวัสดิการมี Super เหมือนประกันสังคมค่ะ เค้าจะจ่าย super ให้เราไว้ที่บัญชี super ค่ะ พอเราออกจากประเทศเค้าอย่างถาวร ถึงขอคืนได้ค่ะ (อันนี้เราได้กลับมาหลายร้อยดอลอยู่ค่ะ)
- วันลาพักร้อน ที่ไทย ปีละ 7 วัน เลือกไม่ถูก ไม่รู้จะลาไปไหนเลย ส่วนที่ออส 30วันค่ะ 5555 ต่างมะ? ไม่ใช้ ได้เงินคืนด้วยนะ ไม่ใช่สูญเปล่านะ
#เรื่องของขนส่งสาธารณะ
ขนส่งเค้าคือดีมากค่ะ บัตรใบนึง จ่ายทุกอย่าง tram bus train 7-11 ฯลฯ ค่าขนส่ง จ่ายวันนึง limit ที่ $14 มั้ง? หลังจากนั้น ก็ขึ้นลงไปเลย มัน max แล้ว หลังจากนั้นฟรี แต่ต้องแตะบัตรนะ รถเค้ามาเป็นเวลา ไม่มีเลท เจ้าหน้าที่ทุกคน น่ารักมากกกกกก ช่วยเหลือหมด ถามอะไร ยิ้มตอบหมด บางที พาไปส่งด้วยนะ (ที่ไทยนี่ ถามที คือจะแดกหัวกุอยู่ละ) แถมยังมี Free Tram Zone ให้เราอีก ขึ้นฟรีในเขตเมือง สบาย ๆ
#อาหารหารกิน
ไม่ต้องกลัวอดตายค่ะ ร้านเอเชีย ตลาดไท มีขายทุกอย่างค่ะ ไม้จิ้มฟัน ยันเตาหมูกะทะ ผงวิเศษ อาหารไทย ข้าวสาร ยาสระผมไทย ๆ สบู่ไทย ๆ น้ำพริก ฯลฯ พวกตลาดสด คือ สะอาดมากกกก แบ่งโซนไปเลย ของสด คืออยู่ในโซนตึกนึง ผักหญ้า อยู่อีกโซนนึง
ซื้อของเท่าที่เราจะกินได้ ไม่โดนด่า วันนี้อยากกินแอปเปิ้ลลูกเดียว ก็ซื้อได้ เค้าไม่ว่า Supermarket คือระบบดีมาก มีโซน self check ให้จ่ายเงินเองจ้า โกงก็ไม่ได้นะ เค้ามีคนตรวจค่ะ แต่คนบ้านเค้าไม่มีโกงกันอะ (ที่ไทยเห็นทำแล้วนะ แต่มันดูวุ่นวาย ดูระบบงง ๆ พนง งง ๆ)
#เรื่องการหาแฟน (เพิ่มเติม เห็นใครหลายคนลงว่าอยากไปหาแฟน เผื่อได้อยู่ต่อยาว ๆ)
ไม่ต้องคิดเยอะค่ะ Tinder ไปเลยค่ะ ก่อนไป ก็ไปสมัคร tinder แพคเกจสูง ๆ ไว้ค่ะ ที่มัน move location ได้อะค่ะ 555 ตอนก่อนไป เราก็ทำแบบนั้นแหละค่ะ พอไปถึง เราก็ยังเล่นอยู่ค่ะ 555 (แต่ตอนนี้ไม่ได้เล่นแล้วค่ะ)
แต่ดวงไม่น่าจะมีคู่ที่นั่นค่ะ ได้เพื่อนมาเยอะเลย เราไม่เคยเจอคนไม่ดีใน tinder เลยนะ เจอแต่คนดี ๆ หน้าที่การงานดี
ทุกวันนี้เวลาพวกเค้ามาเที่ยวเมืองไทย เค้ายังส่งข้อความมาหา พากันไปเที่ยว กินข้าว กันอยู่เลยค่ะ
——-
จากทั้งหมดที่ได้ไปอยู่ 365 วัน ณ ต่างแดน ทำให้เรามีความไฝ่ฝันว่า วันหนึ่ง หากเรามีโอกาสที่จะได้กลับไป เราจะไปแน่นอน ไปอยู่ยาว ๆ ไม่อยากกลับมาไทยเลย คุณภาพชีวิตเราที่นั่น คือ ดีมากก แบบ ดีจริง ๆ ไม่มีความเครียดใด ๆ
ใครอยากจะไปต่างประเทศนะคะ เราแนะนำว่า ลองเลือกประเทศที่ชอบ จิ้มไปเลยค่ะ แล้วลองไปใช้ชีวิตอยู่ระยะนึง หากชอบ หรือติดใจ ลองหาลู่ทางที่จะอยู่ต่อ หากไม่ชอบ ก็กลับมาตั้งหลักก่อน
ใครชอบ aus nz ก็แนะนำให้ลองวีซ่าเรานี่แหละ
ใครอยากรู้อะไร ถามได้นะ อะไรที่เราตอบได้ เราจะตอบให้ค่ะ
เนื้อหาจากกลุ่มเฟซบุ๊ค โยกย้ายมาส่วนสะโพกโยกย้าย