แผนการซื้อขายในตลาด forex นั้นเป็นกรอบงานที่จะคอยแนะนำแนวทางให้กับนักเทรดตลอดกระบวนการซื้อขายทั้งหมด ซึ่งมีการกำหนดเงื่อนไขที่นักเทรดเข้าสู่การเทรด ระบุตลาด ออกจากการเทรด และจัดการความเสี่ยงไปพร้อมกัน แผนการซื้อขายช่วยให้มั่นใจได้ถึงความรับผิดชอบและช่วยให้นักเทรดจดจ่อกับกลยุทธ์ของตัวเอง ในส่วนนี้ก็จะมาแนะนำขั้นตอนสร้างแผนการ 7 ขั้นตอนแบบเข้าใจง่าย ๆ เมื่อเลือก โบรกเกอร์ Forex ได้แล้ว ก็เริ่มคิดวางแผนการเทรดให้ได้กำไรกันเลย
วิธีสร้างแผนการซื้อขาย Forex ใน 7 ขั้นตอน
1. เลือกวิธีการวิเคราะห์ของคุณ
ในส่วนของการตอบคำถามเกี่ยวกับแผนการวิเคราะห์ ซึ่งเป็นสิ่งแรกที่นักเทรดต้องมี ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์พื้นฐาน หรือการวิเคราะห์ทางเทคนิค บางคนอาจประยุกต์ทั้งสองด้วยกัน ในขณะที่คุณกำลังติดตามข่าวสารการเงินต่าง ๆ ก็สามารถดูราคา เส้นแนวโน้ม รูปแบบแผนภูมิ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ และอีกมากมายไปด้วย ขั้นตอนเริ่มต้นของแผนการซื้อขายนี้ช่วยให้นักเทรดจำกัดการโฟกัสไปที่ตำแหน่งจำนวนหนึ่งที่นักเทรดรู้สึกสบายใจ หลังจากนั้น นักเทรดสามารถมองหาโอกาสในการซื้อขายตามการตั้งค่าการเทรดที่ต้องการได้เลย
2. เลือกการตั้งค่าการซื้อขายที่คุณชื่นชอบ
การตั้งค่าการเทรดเป็นหัวใจสำคัญของกระบวนการซื้อขาย forex แต่ก่อนอื่น ให้คิดว่าวิธีการวิเคราะห์เป็นเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดการตั้งค่าการเทรด นักเทรดจะตัดสินใจซื้อขาย ฝ่าวงล้อม หรือรอดึงกลั บหรือรวมการฝ่าวงล้อมด้วย การตั้งค่าการเทรดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการที่นำไปสู่การซื้อขายที่น่าจะเป็นที่สูงขึ้น หากคุณยังเป็นมือใหม่ต่อการซื้อขายฟอเร็กซ์ กระบวนการนี้อาจใช้เวลาในการคิดค่อนข้างนาน แต่มันเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับนักเทรดที่จะต้องค้นหาการตั้งค่าการซื้อขายที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพวกเขา
3. จำกัดจำนวนตลาดในการซื้อขาย
เมื่อเริ่มต้น นักเทรดจะต้องจำกัดจำนวนตลาดที่มุ่งเน้นในการซื้อขายเป็นสิ่งสำคัญ ไม่มีตลาดใดที่เหมือนกันและการจำกัดขอบเขตของตลาดสามารถช่วยให้นักเทรดเข้าใจความแตกต่างของตลาดที่เป็นปัญหาได้ นอกจากนี้ นักเทรดยังสามารถมุ่งเน้นไปที่กรอบเวลาเฉพาะในตลาดเดียว เพื่อทำความคุ้นเคยกับลักษณะและการเคลื่อนไหวของตลาดได้อีกด้วย
4. คิดเกี่ยวกับระยะเวลาการถือครองของคุณ
กรอบระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับประเภทของนักเทรด นักเทรดที่เน้นการซื้อขายระยะสั้น (การซื้อขายที่เปิดและปิดในวันเดียวกัน) นักเทรดที่ซื้อขายในระยะกลางมักจะทำการซื้อขายเป็นเวลา 2-3 ชั่วโมง ไปจนถึง 2-3 วัน การซื้อขายระยะยาวเกี่ยวข้องกับกรอบเวลาตั้งแต่หลายวัน สัปดาห์ เดือน และในบางกรณีอาจเป็นปีเลยก็ได้ นักเทรดสามารถแบ่งทุนตามประเภทการเทรดได้ อาจแบ่งไปเทรดระยะยาว 50 และเทรดระยะสั้น 50 เป็นต้น
5. รู้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้
แต่ละขั้นตอนในแผนการซื้อขายมีความสำคัญมาก แต่ถ้าขาดการบริหารความเสี่ยง แผนทั้งหมดจะพังลง ในขั้นตอนนี้ นักเทรดจะต้องค้นหาระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ซึ่งสอดคล้องกับระยะเวลาที่นักเทรดเต็มใจที่จะตั้งค่าการหยุดการขาดทุนเมื่อจำกัดความเสี่ยงด้านลบ ก่อนที่จะเริ่มลงทุนหรือเลือก โบรกเกอร์ Forex การประเมินความเสี่ยงก่อนการลงทุนยังช่วยให้คุณรู้ว่าควรทำการลงทุนประเภทไหนมากที่สุด
6. วางแผนวิธีจัดการกับความล้มเหลว (และความสำเร็จ)
นักเทรดทุกรายจะประสบกับภาวะขาดทุนในที่สุด ดังนั้นมันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเทรดที่จะต้องปฏิบัติตามกฎ 2-3 ข้อเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นเพื่อจัดการกับอารมณ์ วิธีที่มีประสิทธิภาพในการทำเช่นนี้คือ การหาจำนวนหรือเปอร์เซ็นต์การสูญเสียที่จะบังคับให้นักเทรดถอยกลับและประเมินสิ่งที่ผิดพลาด / กำลังผิดพลาด แล้วจะทำอย่างไรเมื่อการซื้อขายประสบความสำเร็จ ความมั่นใจเป็นสิ่งที่ดี แต่ความมั่นใจมากเกินไปสามารถเปลี่ยนการเทรดที่ชนะให้กลายเป็นการเทรดที่แพ้ได้อย่างรวดเร็ว หากตลาดเคลื่อนไหวไปในทางที่ดี การเพิ่มความเสี่ยงหรือการรับความเสี่ยงก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ควรรักษาให้น้อยที่สุด
7. กำหนดตารางเวลาการเทรด
นักเทรดควรแบ่งเวลาว่างเพื่อไตร่ตรองเหตุการณ์ในสัปดาห์นั้น ๆ และวิเคราะห์การซื้อขายแต่ละรายการ เป็นความคิดที่ดีที่จะทบทวนแผนการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอและปรับเปลี่ยนหากจำเป็น การตรวจสอบการซื้อขายเป็นระยะ ๆ และการทำบันทึกประจำวันเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมเพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังทำตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในแผนการซื้อขาย จดบันทึกหรือบันทึกแผนภูมิที่เกี่ยวข้องกับการเทรดที่ประสบความสำเร็จและไม่สำเร็จ ซึ่งสามารถนักเทรดสามารถตรวจสอบสถิติการเทรดได้ในภายหลัง
สรุป
นักเทรดควรใช้แผนการซื้อขายเพื่อสร้างกรอบการทำงานที่ชัดเจนเมื่อสำรวจตลาดการเงิน นักเทรดจะต้องมีระเบียบวินัยและค้นหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง มั่นใจในแผนการเทรดของตัวเอง อย่ากลัวความล้มเหลว การแพ้คือการเรียนรู้ แก้ไขและปรับแผนการไปเรื่อย ๆ อย่าลืมติดตามความคืบหน้าการซื้อขายเป็นประจำในบันทึกการซื้อขาย และตรวจสอบแผนการซื้อขายปัจจุบัน เมื่อนักเทรดเริ่มคุ้นเคยกับตลาดซื้อขายมากขึ้นสามารถเปลี่ยนแผนได้หากจำเป็น จุดประสงค์ของแผนการซื้อขายคือ เพื่อให้คุณมีพื้นฐานและขอบเขตการทำงานที่ชัดเจนนั่นเอง
